
ละอ่อนเชียงใหม่ เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม วันนี้
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประชาชนทั่วประเทศต้องรับมือและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม อย่างล่าสุด จังหวัดเชียงใหม่เตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม ให้กับเด็กอายุ 5 – 11 ปี เพื่อให้เด็ก ๆ ปลอดภัยห่างไกลจากโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด หลังพบคลัสเตอร์กระจายในหลายโรงเรียน และหลายอำเภอทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ผงะ! พบคลัสเตอร์โรงเรียนระบาดหนัก
ซึ่ง ณ ขณะนี้ในจังหวัดเชียงใหม่เกิดคลัสเตอร์ขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งในบริษัท หน่วยงาน สถานที่จัดงาน รวมไปถึงในโรงเรียน โดยการระบาดในโรงเรียนจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มโรงเรียน คือ โรงเรียนพิงครัตน์ พบ 2 ราย และโรงเรียนวชิรวิทย์ แผนกประถมศึกษา พบเพิ่ม 1 ราย รวม 2 ราย ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดกันเองในกลุ่มนักเรียน อยู่ในระหว่างการสอบสวนและควบคุมโรค

นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อกันในครอบครัว และพบมากขึ้นทุกวัน แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันผู้คนเริ่มป้องกันตัวเองลดน้อยลง ไม่ระวังตัว ป้องกันตนเองไม่ดี จนทำให้เกิดการสัมผัสผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และหากไม่มีการกักตัวก็จะทำให้คนในครอบครัว หรือผู้ใกล้ชิดมีโอกาสผลบวกตามไปด้วย ทั้งนี้จากข้อมูลคลัสเตอร์ต่าง ๆ พบว่ามีการติดเชื้อในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และ 15 – 25 ปี ซึ่งมาจากคลัสเตอร์ที่พบการระบาดในโรงเรียนมากขึ้น จึงได้มีการกำชับให้โรงเรียนที่กำลังเปิดเรียนแบบ On Site เคร่งครัดในมาตรการป้องกันโรคอย่างเต็มที่ และจะต้องมีการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุกรณีที่พบผู้ติดเชื้อในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด
เริ่มแล้ว! Kick off วัคซีน ละอ่อนน้อยเจียงใหม่ ปลอดภัยจากโควิด 19
โดยวันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2565) จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเริ่มดำเนินการโครงการ “Kick off วัคซีน ละอ่อนน้อยเจียงใหม่ ปลอดภัยจากโควิด 19” เพื่อฉีดวัคซีน Pfizer ฝาสีส้มให้กับเด็กอายุ 5 – 11 ปี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้กับเด็ก ในการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ณ โรงเรียนศรีสังวาลย์ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และจดำเนินการฉีดในเด็กที่มีประวัติเสี่ยงทุกคนที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกแห่งของจังหวัดเชียงใหม่เป็นลำดับแรก โดยจะเริ่มฉีดในกลุ่มเด็กนักเรียนชั้น ป.6 ณ โรงเรียนต่าง ๆ ภายในสัปดาห์หน้า โดยไม่ต้อง Walk in เข้ามาที่ศูนย์ฉีด และจะมีการรณรงค์ให้ฉีดนักเรียนในชั้นอื่น ๆ ต่อไป จนครบนักเรียนในระบบการศึกษา และจะต่อด้วยกลุ่มนักเรียนนอกระบบการศึกษาเป็นลำดับถัดไป

โดยเหตุผลที่ต้องมีการดำเนินการฉีดวัคซีนเด็ก เป็นเพราะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เด็กต้องเปลี่ยนรูปแบบจากเรียนในห้องเรียนมาเรียนออนไลน์ ซึ่งเด็กอายุ 5 – 11 ปี เป็นเด็กเล็กที่ยังต้องการการพัฒนาทักษะในทุก ๆ ด้าน การเรียนออนไลน์จึงไม่อาจช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้และพัฒนาได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการฉีดวัคซีนโควิดจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดความพร้อมที่จะเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเต็มที่ ภายใต้ความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งวันนี้มีเด็กจำนวนทั้งสิ้น 152,064 คน ประสงค์ฉีดวัคซีน 87,137 คน คิดเป็นร้อยละ 57.30 และไม่ประสงค์ฉีดวัคซีน 64,924 คน เบื้องต้นทางจังหวัดฯ ได้รับจัดสรรวัคซีนล็อตแรกจำนวน 6,000 โดส
มีการเริ่มฉีดวัคซีนให้กลุ่มเด็กที่มีความเสี่ยงและมีความเปราะบางก่อน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ โรคไตวายเรื้อรัง โรคเบาหวาน และโรคพันธุกรรม
โควิด-19 ยังคงเป็นการระบาดบาดครั้งใหญ่ที่ยังหาทางแก้ไขไม่ได้ 100% มีเพียงแค่การรักษาตามอาการ การป้องกันตัวเอง ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย และการเข้ารับวัคซีนเท่านั้นที่จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อรุนแรง การป่วยหนัก และลดจำนวนการเสียชีวิตได้ ดังนั้นศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วเลือกฉีดวัคซีนคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ ที่สำคัญอย่าลืมเลือกทำประกันสุขภาพเอาไว้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะได้เข้ารับการรักษาโดยด่วน ไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาล